The Hofmeister Kink แคมเปญการตลาด BMW ปรับใช้ AI & Data เพิ่ม Customer Experience
Automobile

แคมเปญการตลาด BMW ปรับใช้ AI & Data เพิ่ม Customer Experience

ผู้เขียนเชื่อว่าเราจะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อแบรนด์ยนตกรรมระดับโลกอย่าง BMW มาไม่มากก็น้อย แคมเปญต่าง ๆ ที่แบรนด์นี้ได้ทำออกมาล้วนเป็นผลงานชั้นดีที่นักการตลาดได้ทำการถอดรหัส เรียนรู้และวิเคราะห์กันมาอย่างแพร่หลาย ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพามารู้จักกับหนึ่งใน แคมเปญการตลาด ของแบรนด์ยนตกรรมชื่อดังกันค่ะ

โดยแคมเปญนี้มีชื่อว่า The Hofmeister Kink แคมเปญจาก BMW ที่ประยุกต์ใช้ Ai และ Data เข้าด้วยกัน สู่การยกระดับ Customer Experience ไปอีกขั้น เรามาดูกันว่าแบรนด์นี้ปรับใช้ยังไง บทบาทของ Ai ไปในเชิงไหน เอา Data แบบไหนมาใช้ไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้ค่าาา

ที่มาที่ไปของแคมเปญ ⏤ เฉลิมฉลองดีไซน์ความเป็น Iconic ของ BMW

ใครที่เป็นสาวก BMW คงคุ้นเคยกันดีกับดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็น BMW แบบตะโกน ซึ่งก็คือ Hofmeister Kink หรือทรงของเสาส่วนท้ายรถ มีลักษณะคล้ายตัว < ซึ่งถูกตั้งชื่อตาม Wilhelm Hofmeister นักออกแบบรถ ซึ่งปรากฎบนรถ BMW ครั้งแรกช่วงปี 1961 โดยแบรนด์ได้ใช้ดีไซน์นี้มามากกว่า 60 ปี และเป็นดีไซน์ที่อยู่บนรถของ BMW แทบทุกรุ่น

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความเป็น Iconic ของแบรนด์ BMW จึงดึงจุดเด่นนี้มาทำเป็น แคมเปญการตลาด The Hofmeister Kink เอาใจชาว Bimmer (ชื่อเรียกสาวก BMW)

เก็บ Data เส้นโค้งของเสา ใช้ AI เทรนข้อมูลค้นหาเส้นโค้งที่ตรงกัน

โดยทางแบรนด์ได้นำ Data ส่วนการออกแบบ Hofmeister Kink ในรถ BMW ทุกรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 1962 เพื่อสร้างรูปทรง ‘kink’ ของแต่ละรุ่นในรูปแบบเวกเตอร์ ‘เส้นโค้งงอ’

นำไปสู่ชุดการฝึกอบรม AI สังเคราะห์ที่สร้างขึ้นเอง ประกอบด้วยรูปภาพ 30,720 ภาพที่ใช้เพื่อค้นหาเส้นโค้งถนนที่ตรงกันจากเครือข่ายถนนของสหรัฐอเมริกา ซึ่งครอบคลุมระยะทางมากกว่า 3.9 ล้านไมล์ หลังจากนั้นก็นำข้อมูลมา Mapping กับแผนที่ถนน เพื่อหาบริเวณทางโค้งที่มีลักษณะหน้าตาเดียวกันกับ Kink จากรถ BMW รุ่นต่าง ๆ 

พร้อมทั้งสร้าง Platform ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าไปหาเส้นทางเหล่านั้น และตามไปขับตามเพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดแปลกใหม่เหมือนกับขับบน Kink ของรถ BMW แต่ละรุ่นได้นั่นเอง

จากเส้นทางที่ Mapping เข้ากับ Hofmeister Kink ซึ่งมีทั้งหมดจำนวนกว่า 55,000 โค้งในสหรัฐอเมริกานี้ ทาง BMW ก็ต่อยอดให้แฟน ๆ สามารถเก็บ Stat ในการขับขี่ได้ โดยถ้าหากเข้าไปที่ hofmeisterkink.com เราก็จะสามารถบันทึกการเดินทางของเราได้ว่าเรามีการพิชิตเส้นทาง Kink ที่ไหนไปแล้วบ้าง ซึ่งหากเราจะหาเส้นทางใหม่ ๆ ก็สามารถเลือก Filter ได้ว่าจะหาจากรุ่นรถหรือลักษณะเส้นทาง

เพื่อโปรโมตแคมเปญ แบรนด์ได้ส่งอีเมลมากกว่า 2.5 ล้านฉบับไปยังเจ้าของ BMW ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยอีเมลแต่ละฉบับได้รับการปรับแต่งให้ตรงกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเจ้าของ รุ่นรถ BMW รูปทรงของ Hofmeister Kink และสีรถของพวกเขา รวมถึงการใช้สื่อโฆษณาในโซเชียลมิเดียอีกด้วย

นอกจากแคมเปญนี้จะได้รับรางวัลจาก Cannes Lions ในหมวดหมู่ Data-driven Targeting แล้ว อ้างอิงจากรายงานของเอเจนซี่บอกว่าจากข้อมูลอีเมลที่ส่งมา 2,508,161 ฉบับ มีอัตราการเปิดอ่าน 42.2% ซึ่ง BMW อ้างว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึง 77% ในบรรดาอีเมลเหล่านั้นที่เปิด มี click-through rate 1.7% นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึง Hofmeister Kink เพิ่มขึ้น 232% หลังแคมเปญ

สรุป แคมเปญการตลาด BMW ปรับใช้ AI & Data เพิ่ม Customer Experience

เราจะเห็นได้เลยว่าการปรับใช้ Ai และ Data มีในทุกอุตสาหกรรม แบรนด์ยักษ์ใหญ่ก็มีการนำเข้ามาประยุกต์ใช้เช่นเดียวกัน ดังนั้น สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องไกลด้วยอีกต่อไปค่ะ Data มีค่ามหาศาลให้เราได้ใช้และพลิกแพลงสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ พัฒนา ตอบโจทย์ทุกความตรงการของเป้าหมาย

The Hofmeister Kink แคมเปญการตลาด ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าการปรับใช้สองสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อการตลาดและการดำเนินธุรกิจ และหนึ่งในองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงของแคมเปญ Hofmeister Kink คือการช่วยให้เจ้าของ BMW ปัจจุบันได้รับประสบการณ์การผจญภัยที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการตลอดชีวิต ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าได้ไปอีกขั้นอีกด้วยนั่นเอง

หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Source: https://www.adstasher.com/2022/08/bmw-uses-ai-to-put-hofmeister-kink-on.html

https://www.autonews.com/marketing/bmws-hofmeister-kink-design-part-marketing-campaign

https://www.lbbonline.com/news/how-performance-art-used-ai-to-locate-bmws-hofmeister-kink

Application, Automobile

ใบเตย หรือเรียกว่าเตยก็ได้ค่ะ ทำ Data Research Insight เป็นอาชีพเสริม อาชีพหลักเลี้ยงแมว ทุกบทความเขียนออกมาด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจเพื่อหาเงินเลี้ยงแมวค่ะ😺🫶🏻

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

การตลาด Duolingo สร้าง 800 ล้าน Impressions ใน 5 วินาที

FacebookFacebookXXLINELineถ้าพูดถึง Super Bowl หลายคนคงนึกถึงภาพการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลสุดยิ่งใหญ่ใช่ไหมคะ? แต่ขอบอกว่า Super Bowl ไม่ใช่แค่เรื่องของกีฬาเท่านั้นค่ะ เพราะนี่คือ “สงครามโฆษณา” ที่แบรนด์ใหญ่ทั่วโลกทุ่มเงินถุงเงินถัง แข่งกันสร้างโฆษณาสุดอลังการในช่วงเวลาทองที่คนดูเยอะที่สุดแห่งปี เรียกได้ว่า “ใครปังกว่า คนนั้นชนะ” เลยค่ะและในปี 2024 นี้ การตลาด Duolingo แอปพลิเคชันฝึกภาษาขวัญใจสายฮาเลือกที่จะ “แตกต่าง” ด้วยการทุ่มงบแบบมินิมอล ใช้เวลาเพียง 5 วินาที เพื่อสร้างแคมเปญสุดปั่นที่ชื่อว่า “Buttception” ฟังแล้วอาจดูเบาสมอง แต่บอกเลยค่ะว่ามันฮุกแรงจนทั้งโลกต้องพูดถึง อยากรู้ว่าแคมเปญนี้เวิร์กขนาดไหน ตามมาดูกันค่ะ Super Bowl สงครามโฆษณาที่ใคร ๆ ก็ต้องสนใจ ก่อนจะไปถึงเรื่องแคมเปญ ผู้เขียนขอเล่าให้เห็นชัด ๆ ก่อนค่ะว่า Super Bowl คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นเวทีการตลาดที่ทุกแบรนด์ต้องจับจอง? Super Bowl เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ NFL (National Football League) ที่จัดขึ้นช่วงเดือนม.ค. – ก.พ.ของทุกปี […]

Opal Kamonnetr
Read more

Green Marketing หุ่นยนต์ตัดหญ้าที่ตั้งใจตัดหญ้าไม่หมด

FacebookFacebookXXLINELineGreen Marketing จาก Husqvarna แบรนด์เครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติที่เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ‘Rewilding Mode’ หุ่นยนต์ตัดหญ้าอัตโนมัติที่ตั้งใจเว้นพื้นที่ 10% ในสวนเอาไว้ให้เป็นพื้นที่เล็ก ๆ สำหรับให้แมลงได้มีที่อยู่อาศัยและเจริญเติบโตในเมืองได้ ที่มาที่ไปของแคมเปญ Rewilding Mode แน่นอนว่าสำหรับใครที่ชอบทำสวนหรือตกแต่งต้นไม้ในพื้นที่บ้านก็จะต้องทำการตัดหญ้าแต่งไม้กันอยู่บ่อย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วการตัดหญ้ามากเกินไปก็เป็นการไปรบกวนหรือทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าแมลงเหมือนกันนะคะ อย่างเช่น ผึ้ง ผีเสื้อ ที่มาผสมเกสร ดังนั้นเรื่องของการตัดหญ้ามากเกินจำเป็นก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีจำนวนลดลง เพราะก็ไม่ใช่แค่บ้านเราหลังเดียว แต่หากทุก ๆ คนทั้งชุมชน ทั้งเมือง หรือทั้งประเทศทำเหมือนกันหมด ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์เหล่านี้เช่นกันค่ะ อีกทั้งในยุโรปก็คือมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ รวมถึงในพื้นที่สวนส่วนตัวก็มีส่วนสำคัญนับเป็น 20-30% ของพื้นที่สีเขียวในเมืองของยุโรป สนามหญ้าหรือสวนในบริเวณบ้านก็เป็นจุดสำคัญให้เหล่าแมลงคอยอาศัยและเจริญเติบโตได้แม้อยู่ในเมือง เมื่อมองกลับมาที่แบรนด์ Husqvarna หุ่นยนต์เครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติจึงมีไอเดียความคิดที่ว่าแบรนด์ตัวเองก็มีส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้อยู่เหมือนกันนั่นเองค่ะ แบรนด์จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า ‘Rewilding Mode’ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ร่วมแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ไปด้วยกันกับทุก ๆ คน โดยตัวนวัตกรรมฟีเจอร์ Rewilding Mode สร้างขึ้นร่วมกับ Prime Weber Shandwick เป็นการตั้งโปรแกรมให้กับเครื่องตัดหญ้าที่จะเว้นพื้นที่สวนของผู้ใช้งานเอาไว้ 10% […]

Fern Panassaya
Read more

การตลาด Craft Sportswear เปลี่ยนเวลาที่นักวิ่งใช้รอไฟแดงเป็นส่วนลด

FacebookFacebookXXLINELineบทความนี้จะพาทุกคนมาดู การตลาด Craft Sportswear แบรนด์ชุดกีฬาที่เปลี่ยนความน่ารำคาญใจของนักวิ่งที่ต้องหยุดรอไฟแดงให้กลายมาเป็นส่วนลดในร้านค้าของตัวเองซะได้ ในช่วงของการแข่งขันวิ่งมาราธอนในนิวยอร์ก แต่จะมีดีเทลอะไรน่าสนใจบ้าง ต้องตามมาดูกันต่อค่ะ ที่มาที่ไปของแคมเปญ NYC Stoplight Run เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2024 หรือต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง เป็นช่วงสัปดาห์ที่มีการแข่งขันวิ่งมาราธอนในนิวยอร์กค่ะ แล้วอย่างที่หลาย ๆ คนที่ชอบวิ่งหรือคนที่เป็นนักวิ่งอยู่แล้ว คุ้นเคยกับกิจกรรมเหล่านี้น่าจะรู้กันดีว่าสัญญาณไฟจราจรหรือที่หมายถึงไฟแดงเนี่ย เป็นหนึ่งในสาเหตุของความน่าหงุดหงิดใจ เหมือนเวลาเรากำลังทำอะไรสักอย่างแบบ Flow ๆ แต่มีอะไรมาขัดจังหวะ Craft Sportswear แบรนด์ชุดกีฬาสัญชาติสวีเดนก็เลยเห็นโอกาสในจุดนี้ ที่จะเปลี่ยน Pain Point ให้กลายเป็นหนทางสู่การเรียกลูกค้าให้วิ่งเข้าร้านบ่อยขึ้นแทน555 เปลี่ยนมุมมองจากลบให้กลายเป็นบวกดีกว่า ตัดจบปัญหารอสัญญาณไฟแดงที่นักวิ่งในเมืองต้องพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ  ทางแบรนด์ Craft เลยได้ร่วมมือกับเอเจนซี่ Forsman & Bodenfors ในนิวยอร์ก สร้างปลั๊กอินสำหรับแอปวิ่งที่ชื่อว่า Strava ในการเปลี่ยนเวลาที่ใช้รอสัญญาณไฟให้กลายเป็นส่วนลด และสามารถนำส่วนลดไปใช้ที่หน้าร้านได้จริง ๆ เลย ซึ่งปลั๊กอินที่ว่านี้ทำงานโดยนำข้อมูลจากสัญญาณไฟจราจรทุกจุดในเมือง Manhattan ที่ถูกติดตามสัญญาณเอาไว้ เอาไปรวมเข้ากับข้อมูลการวิ่งของผู้ใช้งาน เพื่อนำมาคำนวณเวลาที่คนใช้ในการรอที่ทางข้ามนั่นเองค่ะ […]

Fern Panassaya
Read more